วันอาทิตย์ที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

แทร็ก 8/21 (2)


พระอาจารย์
8/21 (550722C)
(แทร็กชุดต่อเนื่อง)
22 กรกฎาคม 2555
(ช่วง 2)


(หมายเหตุ  :  ต่อจากแทร็ก 8/21  ช่วง 1

พระอาจารย์ –  นี่เรียกว่าเสียทั้งสิทธิ์ทั้งโอกาส...ในการเกิดมาเป็นมนุษย์ได้พบพระพุทธศาสนา แล้วยังเป็นศาสนาในช่วงที่ยังมีพระอริยะบุคคล ที่กล่าวตักเตือนสั่งสอนด้วยสัจธรรม

ถ้าล่วงไป ดันตายไปซะตอนนี้ ...แล้วถ้ามันไม่ได้เกิดเป็นคนทันทีเลยน่ะ เอ้า สมมุติว่าบุญบารมียังมีอยู่ ได้เกิดมาเป็นคน...แต่ลับหลังไปนี่สักร้อยสองร้อยปีถึงมาเกิดใหม่

ตอนนั้นจะเจอกี่หันต์ล่ะในโลก มันจะเหลือกี่หันต์ให้เจอล่ะ ...มันจะไปเจอแต่หันซ้ายหันขวา หันหน้าหันหลัง หันไปหันมาน่ะจะเยอะ ...แล้วทำไงล่ะ โอกาสยิ่งน้อย ริบหรี่ๆ ลงแล้ว

นี่ยังดีนะ ยังถือว่ายังมีแสงของพุทธะ ยังพอสาดส่องอยู่ ...แล้วถ้าหลุดห้าพันปีล่ะ นี่พุทธชยันตีแล้วใช่ไหม เขาว่ากันยังงั้นสองพันหกร้อย แล้วเหลืออีกกี่ปี (โยม – สองพันสี่ร้อย)

เออ แล้วถ้าหลุดนี่ล่ะ ต้องบอกว่า เฮอะ ไม่รู้จะไปตามค้นตามควานขึ้นมาได้ล่ะ ...มันหมดทั้งโอกาสไปเลย ถูกปิดโอกาสไปเลย เป็นระยะเวลา...ไม่ต้องนับเป็นอายุปีเลย

เวลาว่างจากพุทธันดรนึงนี่ รอยต่อของพุทธันดรนึงๆ ...พุทธันดร คือพระพุทธเจ้ามาตรัสแต่ละองค์ๆ นี่ ไม่ต้องนับเป็นตัวเลขเลย ไม่ต้องนับเป็นอายุขวบปีเลย เพราะมันนับไม่ถ้วน

ถึงบอกว่าบุญมั้ยนี่ ไม่ใช่บาปนะที่มาทน มาฟังให้เราว่าเราด่านี่ ...แต่หมดโอกาสนี้แล้วนะ ไม่รู้จะไปขุดกันมาจากภพไหนนะ มาฟัง

แล้วจิตนี่มันพาไปได้หมด สามโลกธาตุ ...ถ้ายังปล่อยให้มันล่องลอย เลื่อนลอยนี่ มันจะสร้างภพไปไม่จบไม่สิ้นเลย

ปะเหมาะเคราะห์ร้าย จังหวะนั้น..อารมณ์เป็นอย่างนั้นๆ จิตมันกำลังหวนระลึกหรือว่าคิดปรุงแต่งแต่ละเรื่องๆ ...ถ้าตายตอนนั้นทำยังไง

ไม่อยากได้ก็ต้องได้ รูปขันธ์นามขันธ์อย่างนั้นๆ น่ะ ...มันก็เป็นตัวที่..เขาเรียกว่าวัวปากคอกน่ะ

เหมือนมีคอกวัวล้านตัวอยู่ในคอก ...ถามว่าพอเปิดประตูคอกนี่วัวตัวไหนออกก่อน วัวแข็งแรงเหรอ หรือว่าวัวหนุ่ม หรือว่าวัวเด็ก หรือวัวที่มีเขาสวยๆ งามๆ ออกก่อนหรือ...ไม่ใช่

ไอ้วัวที่มันอยู่หน้าประตูคอกน่ะออกก่อน ...แล้วรู้มั้ย...วัวไหนอยู่หน้าประตูคอก  นึกว่าจะเป็นวัวงามๆ อู้ย ออกมาพละกำลังสวยงามเป็นที่นิยมชมชอบ ดันเป็นวัวง่อยเปลี้ยเสียขาก็ได้

มันออกก่อน เพราะมันอยู่ตรงนั้นพอดีน่ะ ...ไม่อยากออกก็ต้องออก เพราะทุกตัวมันดันจะออก  ก็กูอยู่ตรงนี้ กูไม่อยากออกก็ต้องออกก่อน ...ไม่อยากเกิดก็ต้องเกิดมาเป็นอย่างนั้น

เห็นมั้ย กรรม เราสร้างภพภายในไว้เท่าไหร่ไม่รู้ คิดแต่ละเรื่องๆ ได้บ้าง-ไม่ได้บ้าง สมประสงค์บ้าง-ไม่สมประสงค์บ้าง จิตกูเก็บไว้หมดแหละ ...กูนี่แหละเก็บไว้หมด

นั่นแหละ กี่ล้านคอกกี่ล้านตัวขังอยู่ข้างใน ...นี่ ภพข้างในที่มันขังอยู่ รอชาติจะกำเนิด

เอาง่ายๆ จากนี่กลับไปจะไปกินข้าวที่ไหน กลับไปกินข้าวบ้าน กลับไปกินข้าวที่ร้านนั้นร้านนี้ ต้องคิดก่อนใช่มั้ย จิตมันสร้างรูปนาม สร้างภพไว้รอแล้ว อนาคตข้างหน้า ไม่ไกลนี้ๆ

มันไม่คิดร้านเดียวหรอก ไอ้นั่นก็ดี ไอ้นี่ก็อร่อย ไอ้ร้านนั้นก็น่าจะดี สี่ห้าร้านว่าไป ...นี่ยังคิดอยู่นะ คือสร้างไว้ก่อน มโนไว้ คือสร้างภพไว้รอๆๆๆ ยังไม่ได้กินจริง ยังไปไม่ถึง

นั่งไปนั่งมา คุยกันไปคุยกันมา ลงสนับสนุนมรรคสมังคีเกิดขึ้นจากภายนอก ปึง “เอาวะร้านนี้ ข้าวมันไก่” ...ไป ก็ไปกินข้าวมันไก่ ได้กินข้าวมันไก่เหมือนกับที่คิดไว้ ...ปึ้ง กิน ได้รสชาติของข้าวมันไก่

ชาติบังเกิด รสจริง ได้ลิ้มรสจริง กินจริงอิ่มจริง หนาวร้อนเย็นจริงปรากฏเหมือนภพที่สร้าง คล้ายกับภพที่สร้างไว้ในจิต ...ภูมิใจดีใจ กูได้แล้ว กูทำสำเร็จแล้วกูๆ ...กูคือเรา ...นี่สำเร็จไปหนึ่งชาติแล้ว 

แล้วข้าวหน้าเป็ด ข้าวเหนียวส้มตำ ก๋วยเตี๋ยว ไอ้นั่นไอ้นี่ที่ยังไม่ได้กิน แต่กูคิดไว้...กี่ภพนี่ ก็พอดีไปอิ่มก่อน...ชาติไปบังเกิดกับข้าวมันไก่ซะแล้ว แล้วมันก็ล่วงไป

แต่ที่หมายไว้ไม่หายไปไหนนะ ...เอ้า กินข้าวมันไก่ติดคอตาย ชักดิ้นแหง่กๆๆ “กูยังไม่ได้กินข้าวหน้าเป็ดเลย” ยังคิดไว้อยู่ ...มันก็เกิดมาหาข้าวหน้าเป็ดกินแหละ บอกให้

เนี่ย ที่มันเก็บเป็นภพไว้อย่างเนี้ย เท่าไหร่ หือ รู้มั้ย...ไม่รู้ นับไม่ถ้วนไง  มันจึงสร้างภพภายในนี่ ไม่จบไม่สิ้นนะ จิตนี่ น่ากลัวนะ น่ากลัว

แต่ถ้าไม่พูดนี่ ไม่เห็นหรอก ไม่เข้าใจ งั้นๆ ...ไม่เห็นมีอะไร สบาย ลอยไปลอยมา นั่งสบายนอนสบาย ไม่เห็นต้องคิดอะไร ไม่มีอะไร๊ ...เอาไปเลย ภพชาติที่เกิดนับไม่ถ้วน รอได้เลย

มันอยู่ในนี้แหละ ไม่หายไปไหนหรอก ...วัน ณ  เวลา ณ  วันดีคืนดีเดี๋ยวก็หวนขึ้นมาแล้ว “ข้าวมันไก่ ข้าวหน้าเป็ด” ไม่หายไปไหนนะ

มันรอให้จังหวะพร้อมพอเมื่อไหร่ นั่นแหละสงเคราะห์เมื่อไหร่ก็...ชาติจะบังเกิด

เพราะนั้นต้องระวังนะ ไม่งั้นมันก็จะเลื่อนลอยอยู่นี่ ...สร้างความน่าจะมี สร้างความน่าจะเป็นไว้ก่อน แต่ไม่รู้มันจะสำเร็จมั้ย

พอสำเร็จเมื่อไหร่ปุ๊บ ความยึดมั่นถือมั่นเกิดตรงนั้น ปัง ความเป็นเรา ความเป็นเขา ความเที่ยง ความครอบครองได้ในอาการนั้น รสชาตินั้น ความสุขนั้น ความทุกข์นั้น...บังเกิด

ก็ติดข้อง เป็นเราเป็นของเราได้ เป็นอัสมิ เป็นมานะ เป็นทิฏฐิ เป็นความเห็น ที่ว่าได้ สำเร็จ  เพราะว่าทำตามความอยาก ทำตามที่คิดไว้

ถ้าพระอริยะเจ้าทั้งหลาย ท่านถึงตรงนี้ ท่านส่ายหัวเลย ทั้งโลกมันอยู่กันอย่างนี้ ...เพราะนั้นมันไม่สามารถจำกัดชาติเกิดได้เลย

เพราะอะไร ...มันขยันสร้างชาติ มันขยันสร้างภพน่ะจิต เข้าใจมั้ย มันไม่ละภพชาติน่ะ ...แล้วจะมาถามว่าจะเหลือเจ็ดชาติเมื่อไหร่ อย่ามาถาม 

จะมาถามทำไม ...ถามตัวเองดิ มันอยู่เพื่อสร้างภพสร้างชาติ หรือมันดำรงชีวิตอยู่เพื่อละภพละชาติล่ะ ...ตัวเองตอบได้นะ

จะมาให้อาจารย์บอกว่าจะเหลือเจ็ดชาติเมื่อไหร่นี่ ...กูจะไปรู้มึงรึ หือ มึงเองมึงยังไม่รู้เลยว่ามึงสร้างภพหรือว่ามึงลดภพอยู่น่ะ มาถามกู...จะไปรู้รึ ตากูก็เห็นแค่นี้ จะไปตอบได้ยังไง ใช่มั้ย

ตัวเองนี่ ก็ถ้าปล่อยเลื่อนๆ ลอยๆ คิดนั่นคิดนี่ ไม่มีอะไรก็นั่งคิด ไม่มีอะไรก็นอนไปก็คิด นั่งก็คิด เดินก็คิด หาลู่ทาง หาแบบ หาภพ หาความสุขความสบายข้างหน้าข้างหลัง

ไม่ต้องถามว่ากี่ชาติ เพราะตอบไม่ได้ ...ไอ้ที่ตอบไม่ได้ของพวกเราคือ ไม่รู้กี่ชาติ เข้าใจมั้ย (หัวเราะ) มันนับไม่ได้ นับไม่ทัน

ขนาดตัวเองยังนับไม่ทันเลยว่าคิดวันนึงกี่เรื่องน่ะ ว่าความน่าจะเป็น เดี๋ยวเราจะได้อะไร เดี๋ยวเราจะทำอะไร เดี๋ยวใครจะทำอะไรกับเรา เดี๋ยวเราจะทำอะไรกับเขา

เดี๋ยวใครเขาจะพูดดีกับเรา เราจะเตรียมตัว เราจะตั้งท่าตั้งทางยังไง แล้วเราอยากจะได้อะไร อยากจะไปไหน อยากจะมีอะไร ...อู้ย อเนกชาติก็เกิดแล้ว

อย่านึกว่ามันไม่มีอะไรนะ ...ทุกอย่างมีเหตุและผล มีเหตุปัจจัยซึ่งกันและกัน  ไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาลอยๆ แล้วก็ดับไปลอยๆ หรอกนะ ตราบใดที่ยังไม่อยู่เหนือขันธ์อยู่เหนือโลกนี่

เพราะนั้น ภาวะที่จะ...อะไรทุกสิ่งทุกอย่างเป็นสิ่งที่ไร้สาระได้หมด คือภาวะของพระอริยะเจ้า พระอริยะบุคคลที่ท่านออกมาจากขันธ์ออกมาจากโลก

คืออยู่เหนือสภาวะเหล่านี้แล้ว ทุกอย่างก็เป็นไปด้วยภาวะที่ไม่มีความเป็นสัตว์เป็นบุคคล เป็นกลางหมด ...นั่นแหละถึงจะวางใจได้

นี่พูดกันจนน้ำลายจะหมดปากแล้ว ก็ยังนับภพนับชาติไม่ถ้วนกันอยู่นี่ทุกคน ไม่รู้มันเป็นโรคอะไร ขยันคิดขยันปรุง ปล่อยให้มันหลง ปล่อยให้มันหาย นะ

เอ้า เอาแล้ว พอ เอาพอเข้าใจ 

(ถามโยม)นี่เป็นใคร อยู่ที่ไหน


โยม –  อยู่จันทบุรีค่ะ

พระอาจารย์ – ว่าไป ว่าอยู่จันทบุรี ...อยู่ที่นี่ ก็อยู่ที่นี่ (หัวเราะกัน) มาบอกว่าอยู่เมืองจันท์ ก็อยู่ที่นี่ก็ต้องอยู่ที่นี่  ไอ้ที่อยู่เมืองจันท์น่ะ จิตมันไปอยู่ ...ตอนนี้อยู่ไหน


โยม –  ที่นี่ค่ะ

พระอาจารย์ –  เออ เมืองจันท์น่ะ มันจิตคิดไปเอง มันสร้างรูปที่จำได้ว่าเคยอยู่เมืองจันท์ ...เนี่ย คือถ้าถี่ถ้วนน่ะจะเข้าใจ ...นี่ เห็นมั้ยว่า เราใช้จิตจนคุ้นเคยมาก แล้วก็เชื่อว่าอยู่เมืองจันท์จริงๆ

แต่เราเชื่อว่าโยมน่ะอยู่ตรงนี้จริง เพราะเราไม่เห็นเมืองจันท์ เข้าใจรึเปล่า ..กายมันอยู่ตรงนี้ ก็ต้องอยู่ที่นี่ อย่าไปอยู่ที่จันท์ เดี๋ยวจะไปพระอาทิตย์นู่น

อยู่ที่นี่ อยู่ที่เดียว กายมีอันเดียว ไม่มีหลายกาย นะ กายมีกายเดียว ...อยู่ที่กายอันเดียว คือกายเดี๋ยวนี้

ต้องสร้างนิสัยอย่างนี้บ่อยๆ จึงจะเบิกทางมรรคได้ พอจะเห็นทางเล็ดลอดหลุดลอดออกจากสังสารวัฏได้

ถ้าไม่อยู่ตรงจุดนี้ หมายความว่า ไม่เห็นหนทางออกจากขันธ์และโลกได้เลย


..................................



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น